ซีรีย์เอเชีย ออนไลน์ฟรี
ซีรีย์เอเชีย A Hundred Flowers ให้รักพาแม่กลับมา หนังประเทศญี่ปุ่นดราม่าจัดจ้าที่ตระเตรียมมาสร้างความอบอุ่นต้องใจให้กับผู้ชมบ้านพวกเราในช่วงปลายปีนี้ ก็คือ “A Hundred Flowers ให้รักพาแม่กลับมา” ที่ปัจจุบันได้ยอดเยี่ยมในโปรแกรมหนังสะดุดตาในเทศกาลภาพยนตร์นานาประเทศจ.กรุงเทพฯ ครั้งที่ 15 ที่กำลังจัดขึ้นกับในตอนต้นธันวาคมนี้ โดยมากับกลุ่มผู้ผลิตและก็ดาราหนังชั้นหนึ่งเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ที่จะมาทำให้ทุกคนจะต้องรู้สึกจุกอกรวมทั้งอดทนกับเรื่องจริงที่พบเจออยู่ข้างหน้า
A Hundred Flowers ให้รักพาแม่กลับมา เกิดเรื่องราวของ ยูริโกะ มาซาอิ เป็นคุณแม่เลี้ยงโดดเดี่ยวที่กล่อมเกลี้ยงลูกชาย อิซึมิ มาตามลำพังจนกระทั่งเจริญเติบโต ปัจจุบันนี้เขาเป็นผู้ใหญ่เต็มกำลังรวมทั้งดำเนินการอยู่ที่ค่ายเพลงแห่งหนึ่ง แต่ว่าปรากฏว่ายูริโกะกำลังเจอหน้ากับภาวการณ์ของโรคอัลไซเมอร์ คุณกำลังจะลืมความจำต่างๆต่อให้จำลูกชายของตนเองมิได้ อิซึมิก็เลยได้กลับมาเอาใจใส่แม่และก็บากบั่นรื้อฟื้นความจำให้กับแม่ แต่ว่าโน่นก็ทำให้เขาจำต้องกลับไปเจอหน้ากับสถานที่เก่าๆในสมัยก่อนอีกรอบ กับความจำที่ยากจะลืมถึงแม้ต้องการจะลืมมากแค่ไหนก็ตาม
นี่เป็นผลงานการดูแลรวมทั้งทำหนังเรื่องแรกของโปรดิวเซอร์แล้วก็ผู้เขียนโด่งดัง ซีรีย์เอเชีย “เก็นกิ คาวะมุระ” ที่เขาชำนาญในแวดวงมายาวนาน ถ้าเกิดคุณเคยมอง “If Cats Disappeared From the World” นั่นแหละเป็นหนังที่ผลิตขึ้นจากนิยายที่้เขาเขียน แล้วก็เขายังอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังหนังดังๆในฐานะผู้อำนวยการผลิต ไม่ว่าจะเป็น “Your Name.” หรือ “Sunny: Our Hearts Beat Together” แล้วก็เมื่อเขามาจับจับทำหนังด้วยตัวเอง มันย่อมจำเป็นต้องมองจับตาแบบไม่ธรรมดา
ที่แท้ A Hundred Flowers ก็นับได้ว่าเป็นหนังประเทศญี่ปุ่นตัวเก็งอีกประเด็นที่ถูกเสนอเป็นผู้แทนประเทศไปเข้าชิงรางวัลออสการ์ในตะกายหน้า แต่ว่าแพ้แต้มให้กับ “Plan 75” ไปนิดหน่อย และก็ปรากฏว่าหนังประเด็นนี้ก็ยังมีหลักสำคัญเกี่ยวกับผู้อาวุโสคล้ายกันอีกด้วย โดยผู้กำกับเล่าว่าเขาถ่ายทอดเรื่องราวมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นบริเวณตัวและก็ใช้ประสบการณ์มาช่วยถ่ายทอดแน่ๆว่า เก็นกิ คาวะมุระ ยังรับหน้าที่เขียนบทหนังหัวข้อนี้ด้วย และก็บทหนังของเขาก็เต็มไปด้วยการร้อยเรียงเรื่องราวที่แสนแยบยลและก็มิติเชิงซ้อนที่น่าดึงดูดเยอะไปหมด
นี่นับได้ว่าเป็นหนังประเทศญี่ปุ่นที่มีบทหนังค่อนข้างจะแข็งแรงเรื่องหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ ถึงแม้จังหวะการเดินเรื่องจะเรียบง่ายแล้วก็ไปแบบช้าๆแม้กระนั้นทิ้งไว้ว่าการเพิ่มน้ำหนักอันหนักที่เกิดขึนสังกัดผู้แสดงต่างๆได้แทบจะบริบูรณ์หนังหัวข้อนี้บางครั้งอาจจะมิได้เล่าแบบไม่อ้อมค้อมสักเท่าไหร่นัก ด้วยเหตุว่าผู้ชมยังจำเป็นต้องรอซับแล้วก็จับใจความ ก่อนที่จะพินิจพิจารณาจับโยงแต่ละเหตุมาผูกรวมเข้าไว้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกัน
ท่ามกลางความประพฤติปฏิบัติและก็เหตุผลที่นักแสดงแต่ละตัวเลือกที่จะทำแบบนั้น นี่ก็เลยแปลงเป็นเสน่ห์ของหนังประเด็นนี้โดยแท้จริง จังหวะของหนังบางทีอาจจะดูก่อนบเรียบ แม้กระนั้นก็เปรียบได้กับเป็นคมมีดที่เฉียบคมของหนังเลยก็ว่าได้เมื่อมารวมกับท่าทางการแสดงของกลุ่มแคสติ้งด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ A Hundred Flowers บริบูรณ์ขึ้นไปอีก “มาซะกิ สุดะ” เป็นยอดเยี่ยมผู้แสดงชายหนุ่มแถวหน้าของยุคนี้อยู่แล้ว ความสามารถการแสดงของเขาออกจะตรงกับหน้าที่ที่ได้รับเลือกมาให้ถ่ายทอดอย่างดีเยี่ยมอีกทั้งความนิ่งทางการแสดงรวมทั้งอินเนอร์ที่เก็บกักเอา
ไว้คอยการปะทุออกมาครั้งละเรื่อยจัดได้เขาทำออกมาได้เกือบดีเลิศในทุกส่วนประกอบ ซีรีย์เอเชีย ทีเดียวและก็ยิ่งมาเกาะติดคู่ทำแสดงกับศิลปินรุ่นใหญ่ “เมโกะ ฮาระดะ” แปลงเป็นคู่ผู้แสดงที่เข้ากันลงล็อกจังหวะกันได้อย่างพอดี นี่สิ…ดารามือโปรตัวจริง ประสบการณ์ของคุณได้ถูกประยุกต์ใช้สำหรับในการถ่ายทอดหัวข้อนี้ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวทั้งยังพาร์ทอดีตกาลแล้วก็ปัจจุบันนี้ คุณคนนี้สามารถแบกรับหนังทั้งยังเรื่องเอาไว้ได้อย่างอยู่มือกับการแสดงที่น้อยแต่ว่ามากมาย
รวมทั้งปะทุขึ้นมาได้แบบกัดซาบซึ้งใจผู้ชมอย่างมากอีกหนึ่งส่วนประกอบที่ไม่กล่าวถึงคงมิได้ใน A Hundred Flowers ก็น่าจะเป็นการใส่ส่วนประกอบงานสร้างนิดๆหน่อยๆที่เป็นกิมไม่กที่น่าดึงดูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานภาพของหนังเรื่องแรกของผู้กำกับเก็นกิ จัดว่าสอบได้ฉลุยมากมายๆเนื่องจากงานจุดนี้มีส่วนช่วยบิวท์อารมณ์ของหนังได้อย่างดีเยี่ยม แล้วก็หนึ่งจุดที่ถูกใจมากมายๆก็คือการเล่นกับสีในหนังหัวข้อนี้ ที่นำเอาสีมาใช้เป็นผู้แทนของผู้แสดง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สีเหลือง กับ สีน้ำเงิน แม่สีที่ต่างเฉดกันกลับอยู่คู่กันได้แบบมีสีสั้นโดยสรุปแล้วนั้น A Hundred Flowers ให้รักพาแม่กลับมา เป็นหนังดราม่าที่โยงใยหัวข้อครอบครัวได้อย่างแยบคาย การเยื้องกรายเข้ามาของสภาวะโรคสมองเสื่อม แปลงเป็นเรื่องสำคัญของทุกครอบครัว การดูแลซึ่งกันและกันในยามที่ยังจำกันได้อยู่เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด ก็ราวที่หนังบอกเอาไว้ว่า “งามอย่างมาก แม้กระนั้นจะยังคงนึกออกมั้ยนะเพราะว่าเรื่องราวชีวิตแต่ละมีหลายสิ่งถั่งโถมเข้ามามากมายก่ายกอง บางทีช่วงที่ความสำราญแล้วก็ความสวยงามก็ชอบถูกบังไปให้พวกเราลืมเลื่อนและก็คิดไม่ถึงนั่นเอง
Broker จัดหารัก
แม้กระนั้นก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าเรื่องราวของครอบครัวที่วัวเรเอดะผลิตขึ้นมันประกอบสร้างได้อย่างมีมิติหัวใจ ความหมายของคำว่าครอบครัว บิดามารดา ผู้ให้กำเนิด แล้วก็ผู้ดูแลของหนังวัวเรเอดะก็ชอบสร้างความแปลกประหลาด แม้กระนั้นก็เชิญอบอุ่นแล้วก็ซาบซึ้งใจอย่างชี้แจงผิด ซึ่งพวกเราว่าหนังของวัวเรเอดะ ขั้นต่ำๆก็ชอบสร้างความตรึงใจเล็กๆให้กับผู้ชมได้ด้วยเหมือนกันBroker หารักBroker สำเร็จงานภาพยนตร์การเขียนบทและก็กำกับการแสดงโดย ฮิโรคาสุ วัวเรเอดะ
ผู้เคยครอบครองรางวัลปาล์มทอง (Palme d’Or) ซีรีย์เอเชีย ของเทศกาลงานภาพยนตร์เมืองคานส์จากภาพยนตร์ประเทศญี่ปุ่นเรื่อง Shoplifters (2018) สำหรับเรื่อง Broker ในปีนี้ ก็ได้รับเชิญเข้าฉายในสายแข่งขันหลักของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ และได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยม ด้วยเสียงตบมือชื่นชอบนานถึง 12 นาที ร่วมยืนยันด้วยรางวัลพิเศษ Ecumenical Jury Award พร้อมกันกับรางวัลดาราชายเยี่ยมยอดจากผู้แสดงนำฝ่าย ซงคังโฮ กลับประเทศเกาหลีมาด้วย
หัวข้อนี้เป็นงานหนังประเทศเกาหลีเรื่องแรกของ ฮิโรคาสุ วัวเรเอดะ โดยเขาได้เล่าถึงที่มาของการตัดสินใจต้องการร่วมงานกับทั้งยัง 4 ดาราหนังหลัก ซงคังโฮ คังดเว้นงวอน แบดูที่นา แล้วก็ อีจีอึน (ไอยู) ว่า เขาได้ทราบจะซงคังโฮหนแรกในเทศกาลภาพยนตร์นานาประเทศปูซาน รู้จักคังดเว้นงวอนขณะที่เขาไปปฏิบัติงานที่เมืองโตเกียว จนได้เชื้อเชิญทั้งสองมาร่วมงานกัน ส่วนแบดูทุ่งนา
เขาเคยดำเนินงานด้วยแล้วตั้งแต่เมื่อปี 2009 ในหนังประเทศญี่ปุ่นเรื่อง Air Doll
ซึ่งเขาก็ต้องการจะร่วมงานกับคุณอีกรอบ ในบทของผู้แสดงที่เป็นคน (เพราะหัวข้อนั้นแบดูทุ่งนาเล่นเป็นตุ๊กตายางอัดลม) จนกระทั่งสุดท้าย เขาก็ได้มาดำเนินการร่วมกับกลุ่มผู้แสดงประเทศเกาหลีที่เขาล้วนเชื่อมือ ที่ก็รวมทั้งไอยู ที่เขาถูกใจการแสดงของคุณจากผีไม้ลายมือในซีรีส์ My Mister (2018) ด้วยเช่นเดียวกันผลงานช่างกล้องมือแม่นนอกจากนั้น Broker ยังได้ช่างถ่ายรูปมือแม่น ฮงคยองพโย ผู้ครอบครองผลงานภาพที่นำมาจากเรื่อง Parasite (2019) แล้วก็ Burning (2018) มาร่วมงานควบคุมภาพด้วย เรียกว่าเป็นส่วนประกอบขึ้นต้นที่ว้าวเลย
ถ้าหากคนไหนกันแน่ติดตามผลงานดังๆของ ฮิโรคาสุ วัวเรเอดะ มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Nobody Knows (2004) Like Father Like Son (2013) รวมทั้ง Shoplifters (2018) จะมองเห็นได้ถึงความเด่นสำหรับเพื่อการถ่ายทอดความเกี่ยวพันครอบครัว ควบไปกับหลักสำคัญที่วิจิตรของสังคมได้อย่างซาบซึ้งใจ ที่แท้ Broker ก็อยู่บนแนวความคิดเดียวกันกับ Shoplifters ที่ยกข้อความสำคัญ ‘ครอบครัว’ ที่ปรับปรุงมาจากความเกี่ยวข้องทางจิตใจ
ไม่จำเป็นต้องร่วมสายโลหิต และก็การใช้นักแสดงหลักซึ่งเป็นผู้ที่เป็นส่วนเกินของสังคมหรือชนชั้นไม่มีค่า แต่ว่าด้วยเรื่องราวที่ต่างกัน กับปัญหาที่เกิดขึ้นกับสังคมประเทศเกาหลีเจริญ ก็เลยทำให้ Broker มีความสดใหม่ และก็มี Impact ที่น่าดึงดูดไม่แพ้กันหนังดราม่าประเทศเกาหลีใต้พล็อตหลักของเรื่องกล่าวถึง กล่องเด็กแรกเกิดของโบสถ์แห่งหนึ่งซึ่งวางเพื่อรับทารกที่แม่ไม่พร้อมจะชุบเลี้ยง ให้บิดามารดาได้เอามาวางทิ้งเอาไว้ได้โดยไม่ต้องเผยตัวตน เพียงแค่ทิ้งชื่อเด็กรวมทั้งเบอร์ติดต่อไว้
ในเรื่องที่อยากได้มารับเด็กคืนในคราวหลังเมื่อพร้อม อารมณ์ฝากเลี้ยงไว้ก่อน แม้กระนั้นเอาจริงเอาจังก็ไม่ค่อยมีคนไหนกันมารับคืน จนถึงสถานที่เลี้ยงเด็กอ่อนชั่วครั้งชั่วคราวของโบสถ์ไม่ได้ต่างอะไรจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่มีเด็กๆเติบโตขึ้นตรงนี้ช่องโหว่นี้ก็เลยเอื้อให้กำเนิดมิจฉาชีพขึ้น เนื่องจากบ่อยมากที่แม่เด็กไม่ได้แนบข้อมูลอะไรก็ตามไว้ แสดงว่าตั้งอกตั้งใจทิ้ง ข้าราชการสมัครใจของโบสถ์ก็เลยชุบมือเปิบลักเด็กแบบงี้ไปขายในตลาดมืด ด้วยเหตุว่ามีคู่บ่าวสาวเยอะแยะที่มีลูกเองมิได้
และก็ต้องการรับเลี้ยงลูกบุญธรรม แม้กระนั้นเพราะเหตุว่าแนวทางการยุ่งยาก หรือคุณลักษณะไม่ลงตัว ก็เลยหันมาซื้อลูกในตลาดมืดแทน คู่ขาข้าราชการสมัครใจของโบสถ์ ซังฮยอน รวมทั้ง ป่าดงซู ก็เลยคบคิดลักลอบเป็น ‘Broker’ หรือคนกลางขายเด็กBroker หารักเรื่องราวเชื้อเชิญติดตามเกิดขึ้น เมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งนำเด็กมาทิ้งเอาไว้ที่กล่องรับเด็กทารก แล้วกลับใจในวันต่อมา แต่ว่า Broker ได้นำเด็กไปเสนอขายแล้ว Broker ก็เลยโน้มน้าวว่าเด็กกำลังจะได้ไปสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
เพราะเหตุว่าพวกเขาหาบิดามารดาที่ดีให้ ส่งผลให้คุณติดตามไปดูการส่งเด็กซึ่งมิได้ราบรื่นนัก ซีรีย์เอเชีย ด้วยหลายๆเหตุที่ไม่คาดคิด ก็เลยเปลี่ยนเป็นทริปสำรวจไปทั่วประเทศเกาหลีหลายๆเมือง เพื่อหาบิดามารดาที่พอดี ในเวลาที่มีตำรวจติดตามตามรอยความประพฤติปฏิบัติของ Broker รวมทั้งแม่ใจจืดใจดำผู้ทิ้งเด็กคนนี้ เพื่อหวังจะจับผู้ที่กระทำความผิดให้ได้คาหนังคาเขาระหว่างการค้าขาย
การดำเนินเรื่องในแนวเบาๆดำเนินไปอย่างละเมียด เพื่อเวลาผู้ชมได้เบาๆส่องขยายตรวจสอบแต่ละนักแสดง
เข้าถึงเนื้อแท้ความนึกคิดและก็แรงบันดาลใจของพฤติกรรมซึ่งแตกต่างจากภาพแรกหรือเปลือกที่มองเห็น ให้ผู้ชมผุดปัญหาขึ้นในใจเองเป็นช่วงๆตลอดทางว่า เขาหรือคุณทำถูกหรือไม่ถูก? เรื่องราวที่เป็นอยู่เป็นสิ่งที่ดีไหมดี? ควบไปกับความกัดกร่อนอารมณ์แบบ Slow burn จนกระทั่งจุดที่คลี่คลายเงื่อน เปิดใจสู่กัน ทริปปุเลงปุเลงไปกับรถยนต์ปุโรทั่งก็เลยเป็นราวกับการเดินทางชีวิตที่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์อันแปลก ทั้งคู่โบรคเกอร์ แม่กับลูกอ่อน กำพร้าดื้อที่แอบติดรถยนต์มาด้วยอีกหนึ่งคน
รวมทั้งตำรวจอีกสองผู้ที่ติดตามพวกเขามาตลอดทางเส้นบางๆกั้นดำขาวอย่างก้ำกึ่งของ Brokerหมายถึง‘คนกลางค้ามนุษย์’ ค้าเด็กแรกเกิดที่ถูกละเลย พอๆกับว่าเป็นผู้ร้าย หรือต้องเป็น ‘ผู้แทนผู้ผลิตบุญช่วยหาครอบครัวรวมทั้งความรักเติมเต็มให้เด็ก’ ราวกับคำสวยงามที่เจ้าตัวมั่นหน้าเคลมเต็มปากว่าเป็น ‘กามเทพ’ ต่างหากเหตุผลที่แลเห็นจะๆว่า สตรีที่มีชีวิตตรากตรำ มีอาชีพที่ไม่เป็นที่ยอมรับ มีลูกที่ไม่พร้อมจะอุปการะ ก็เลยละเลยเด็ก โดยความเป็นจริงก็ยังอาจมีความสลับซับซ้อนในชีวิตและก็จิตใจที่จะเชิญพวกเราเห็นใจคุณเมื่อเวลาผ่านไป
Lady Chatterley’s Lover ชู้รักเลดี้แชตเตอร์เลย์
แม้ว่าคุณเป็นคนชอบดูหนังชนิดที่ถูกใจจับใจไปกับหนังที่ถือเอาวรรณกรรมโรแมนซ์น้ำเสียแสนยั่วยวนใจมาขึ้นหน้าจอแล้วละก็ “Lady Chatterley’s Lover ชู้รักเลดี้แชตเตอร์เลย์” ควรต้องถูกใส่เข้าไปเป็นเลิศในหนังลิสต์ที่คุณจึงควรมองใหได้ในปีนี้ ด้วยเหตุว่านี่เป็นหนังที่มากับกลิ่นดราม่าอีโรติกแบบเซ็กซ์ซิมโบลที่เบื้องหลังเป็นทัศนียภาพชองเมืองผู้ดีกับตอนสงครามโลก เป็นอารมณ์ที่ทั้งยังมันแล้วก็กลมกล่อมละมุนละไมไปในครั้งเดียวกันLady Chatterley’s Lover เล่าราวชีวิตการได้สมรสกับเซอร์คลิฟฟอร์ด แชตเตอร์เลย์ทำให้คอนนี่มีชีวิตที่ร่ำรวยและก็มีสิทธิพิเศษ
เมื่อคุณได้ดำรงสถานะเป็นเลดี้แชตเตอร์เลย์ ซีรีย์เอเชีย แต่การสมรสในอุดมคตินี้กลับเบาๆแปลงเป็นราวกับการคุมขัง เมื่อคลิฟฟอร์ดกลับจากสงครามโลกครั้งที่ 1 พร้อมการบาดเจ็บที่ทำให้เขาเดินมิได้ เมื่อคุณได้เจอแล้วก็หลงรักโอลิเวอร์ส เมลเลอร์ส คนดูแลสัตว์ในที่ดินของครอบครัวแชตเตอร์เลย์การนัดพบอย่างลับๆพาให้คุณได้เจอกับการปลุกเร้าทางเพศแสนเย้ายวน แต่ว่าเมื่อความข้องเกี่ยวคราวนี้เปลี่ยนไปเป็นคำนินทาประชาชนไปทั่ว คอนนี่ก็เลยจะต้องกระทำการตกลงใจที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดไป
จำต้องเลือกระหว่างการเอาอย่างหัวใจหรือกลับไปพบผัวของคุณแล้วก็ทรหดอดทนทำในสิ่งที่สังคมสมัยเอ็ดเวิร์ดนั้นมุ่งมาดจากคุณถัดไปนี่เป็นผลงานของดาราหนังแล้วก็ผู้กำกับหญิงไฟแรงชาวประเทศฝรั่งเศส “ลอร์ เดอ เคลร์มงต์-ตงแนร์” ที่เริ่มเปลี่ยนทิศทางมาเอาดีกับการอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง เมื่อไม่กี่ปีกลายคุณพึ่งจะประดิษฐ์ไม่นิซีรีส์ อย่าง Mrs. America กับ The Act ออกมาให้เชยชม และก็นี่กลับมาจับทำหนังเรื่องราวอีกที ที่จัดว่าสไตล์ใหม่ที่ท้าของคุณไม่น้อย
เพราะว่านอกเหนือจากจะต้องนึกถึงงานต้นฉบับ ยังจำเป็นต้องปรับโหมดมารับหนังโรแมนซ์ลุ่มหลงจัดๆด้วยหนังปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมาจากนิยายเชิงบทกลอนชื่อเดียวกันของ “ดี. เอช. ลอว์เรนซ์” ผู้ประพันธ์ในตำนานในตอนต้นสมัยศตวรรษที่ 20 โดยผลงานของผู้เขียนผู้นี้ชอบถูกประยุกต์ใช้ในการศึกษาวิจัยในคลาสเรียนวรรณกรรมของประเทศตะวันตกกันหลายครั้ง รวมทั้งเล่มนี้ก็นับว่างานมาสเตอร์พีชลำดับด้านหลังๆในช่วงชีวิตของเขา แล้วก็เคยถูกนำมาผลิตเป็นหนังแล้วก็ซีรีส์แล้วหลายเวอร์ชั่น
Lady Chatterley’s Lover ได้ผู้เขียนเก่ง “เดวิด มากี” จาก The School for Good and Evil รวมทั้งเร็วๆนี้ The Little Mermaid ฉบับไลฟ์แอคชั่น มาดัดแปลงเขียนบทหนังให้ ซึ่งถ้าว่าคนใดกันที่เคยได้มองดูฉบับก่อนๆของเรื่องราวนี้บางครั้งก็อาจจะทราบซ้ำซากจำเจสักนิด แม้กระนั้นการแปลความรวมทั้งเคาะปัญหาในเวอร์ชั่นใหม่นี้ ก็เพิ่มความสดใหม่แล้วก็อารมณ์ที่เข้มข้นได้แบบยกฐานะ มิได้พาผู้ชมติดไปอยู่กับความคลั่งไคล้ที่ราคะในเบื้องหลังที่จิตใจมนุษย์เพียงอย่างเดียว ถือได้ว่าเป็นการไม่กซ์บทใหม่ออกมาได้ออกจะน่าดึงดูด
แน่ๆว่านี่เป็นหนังโรแมนซ์อีโรติก ส่วนประกอบของฉากวาบหวิว 18+ ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงไปได้ แต่ว่าหนังก็สามารถถ่ายทอดเซ็กซ์ซีนออกมาได้ออกจะประณีตบรรจง พร้อมด้วยใกล้เคียงไปกับความเจริญทางชมรมและก็อารมณ์ของนักแสดงได้อย่างมีเหตุผลดี ฉากพวกนี้ถ่ายทอดออกมาในเชิงศิลป์มากยิ่งกว่าเป็นภาพอนาจาร ทั้งยังจับใส่เข้ามาได้อย่างมีจังหวะรวมทั้งลำดับที่ดี ไม่ใช่การยัดแต่ว่าฉากฉาวๆแบบไม่ทราบประสีประสาเวลาที่ส่วนประกอบด้านงานสร้างของหนังหัวข้อนี้นั้น
ก็นับว่าทำออกมาได้ออกจะถูกใจ แม้พินิจดีๆจะสัมผัสได้ว่าหนังจะใช้วิธีของสีเข้ามาเป็นตัวนำสารทางอารมณ์ให้กับผู้แสดงได้ออกจะเป็นศิลปงานโปรดักชั่นออกแบบก็ทำออกมาค่อนข้างจะใช้ได้ แม้ว่าจะมิได้สะดุดตากว่าหนังแนวนี้เรื่องไหนๆแต่ว่าก็มองเห็นถึงการให้รายละเอียดแล้วก็เอาใจใส่ในหลายๆส่วนประกอบในหนังได้อย่างดีเยี่ยมด้านการแสดงก็จะต้องเชิดชู “เอ็มม่า คอร์ริน” ที่สวมวิญญาณเลดี้ได้อย่างน่าลุ่มหลงอีกทั้งกายอีกทั้งจิตใจ คุณสามารถแบกรับหนังทั้งยังเรื่องเอาไว้ได้ออกจะน่าพึงพอใจ ถึงแม้บทที่คุณได้รับนั้นจะมิได้แปลกใหม่อะไรเลย แล้วก็ยังเป็นบทที่เคยนำเอามาเล่นบ่อยๆหลายรอบแล้วด้วย
แม้กระนั้นคุณก็สร้างมิติให้กับนักแสดงนี้ได้อย่างมีท่วงที ซีรีย์เอเชีย มีแนวความคิดเชิงซ้อนทางสภาวะอารมที่ให้สลับซับซ้อนขึ้น “แจ็ค โอ’คอนเนลล์” บางครั้งอาจจะเป็นเพียงแค่บทชู้รักทั่วๆไป บทของเขาบางทีก็อาจจะไม่มีมิติสักเท่าไหร่ แต่ว่าก็เป็นตัวละครสมทบที่เสริมแล้วก็เป็นกุญแจสำคัญให้กับหนังประเด็นนี้สรุปว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น Lady Chatterley’s Lover จัดได้ว่าเป็นหนังโรแมนซ์สุดฉาวที่บางครั้งก็อาจจะเด่นด้วยฉากหวิวๆเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งในส่วนประกอบ
แต่ว่าหนังก็จัดว่าถ่ายทอดออกมาได้มีเหตุผลและก็ร้อยเรียงออกมาบนฐานรากดราม่าโรแมนซ์ อีกทั้งแทรกสอดหัวข้อการข่มเหงมนุษย์ หากว่าพล็อตหนังจะออกจะซ้ำซากจำเจและไม่แปลกใหม่เลยก็ตาม เกิดเรื่องน้ำเสียที่พวกเราจับทางได้ตั้งแต่เริ่ม แต่ว่าความสวยสดงดงามในงานสร้างรวมทั้งการถ่ายทอดผ่านการแสดงของหนังประเด็นนี้ จัดว่าทำออกมาได้ดิบได้ดีในระดับที่ถูกใจ
Don’t Worry Darling
แรกเริ่มนั้นมันเป็นหนังที่โปรแกรมจะเข้าฉายในโรงบ้านพวกเราก็นั่นแหละ แม้กระนั้นไม่ทราบว่ากลับไปกลับมาก็เลยถูกถอดวันฉายออกไปซุกซนๆภายหลังที่กระแสของหนังและก็รายได้ของหนังไม่ค่อยจะปังสักเท่าไหร่นัก แม้กระนั้นจนแล้วจนรอดพวกเราก็ได้มอง “Don’t Worry Darling” หนังตื่นเต้นที่ได้ผลงานจัดจ้าที่ร่วมศิลปินดาราชั้นนำเอาไว้ได้อย่างน่าดึงดูดDon’t Worry Darling เกิดเรื่องราวของ อลิซ และก็ แจ็ค โชคดีมากพอที่กำลังจะได้อาศัยอยู่ในชุมชนในฝันของคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ชื่อว่า วิคโคนปรี่ หมู่บ้านของหน่วยงานหนึ่งที่ให้บุคลากรชายผู้ร่วมโปรเจกต์ลับวิคโคนปรี่อาศัยอยู่กับครอบครัวของเขา
มุมมองของโลกอันงดงามในปี 1950 เริ่มโดย แฟรงค์ ประธาน ซีรีย์เอเชีย ไลฟ์ผู้ฝึกสอนผู้ผลิตแรงดลใจรวมทั้งวิสัยทัศน์ที่เสมอภาค โดยเขานั้นยึดทุกแง่ทุกมุมของชีวิตในดินแดนที่ความฝันนั้นเป็นหลักในขณะหนผัวใช้เวลาทุกเมื่อเชื่อวันของเขาในฐานทัพหลักของโปรเจกต์วิคโคนปรี่เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งของเพื่อความเจริญ เหล่าเมียของพวกเขา รวมทั้ง เชลลีย์ คู่สมรสคนงามของ แฟรงค์ ต่างก็ใช้เวลาเพลินไปกับความสวยสดงดงาม ความโก้หรู รวมทั้งแสงสีเสียงเชิญชวนเมาในชุมชนของพวกเขา
ชีวิตนั้นช่างเพอร์เฟ็ค ถึงแม้ว่าทุกครอบครัวควรต้องเข้าหาหน่วยงานใหญ่อย่างสม่ำเสมอ และก็แลกเปลี่ยนกับการที่พวกเขาห้ามแข็งข้อ ห้ามตั้งคำถามใดๆก็ตามเกี่ยวกับวิคโคนปรี่เด็ดขาดนี่เป็นว่าได้ผลสำเร็จงานที่ดาราหนังสาวโด่งดัง “โอลิเวีย ไวลด์” ได้มีรับจังหวะจากสตูดิโอใหญ่ให้กับมากำกับหนังเป็นครั้งแรก ถึงแม้คุณจะสั่งสมประสบการณ์จากผลงานเรื่องก่อนๆทั้งยังหนังสั้น, มิวสิควิดีโอ รวมทั้งหนังเปิดตัวเรื่องดัง Booksmart เมื่อไม่กี่ปีกลาย การกลับมาคราวนี้นับได้ว่าเป็นงานท้าสำหรับคุณ เพราะว่าจำต้องมาจับจับงานสเกลที่ใหญ่ขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัว
แล้วก็นั่นแหละที่น่าจะเป็นหนึ่งในปัญหาของ Don’t Worry Darling เนื่องจากว่าหนังมีสเกลรวมทั้งเนื้อหาที่ออกจะใหญ่เกินกำลังโอลิเวีย ที่บอกตรงๆคุณยังคงค่อนข้างจะใหม่กับวงการเบื้องหน้าเบื้องหลังในฐานะผู้กำกับอยู่ คุณเคยเพียงแค่ควบคุมกองถ่ายเล็กๆกับหนังนอกกระแสมามากแค่ไหน เมื่อจำต้องมาจับงานสร้างภาพยนตร์เมนสตรีมแบบนี้ พลังรวมทั้งวิถีทางของคุณนั้นบางครั้งอาจจะยังไม่อาจควบคุมหนังหัวข้อนี้ได้พอเพียง
ในส่วนของบทหนังที่ได้คนเขียนคู่บารมี “แคธี สิลเบอร์แมน” กลับมาทำงานร่วมกันอีกรอบ แม้กระนั้นก็เปลี่ยนๆกับ โอลิเวีย ไวลด์ คนเขียนสาวผู้นี้ยังค่อนข้างจะมีประสบการณ์ไม่มากสักเท่าไหร่ ถึงแม้คุณจะไปได้ดีกับ Booksmart กับก่อนหน้าที่มีหนังรอมคอม Isn’t It Romantic ที่ก็มิได้เป็นหนังที่ปังอะไร เมื่อจะต้องมารับงานนิพนธ์หนังเชิงการค้าแบบเน้นย้ำๆก็คงจะใหญ่เกินกำลังไปสำหรับคุณด้วยเหมือนกัน
โน่นก็เลยส่งออกมาทำให้บทหนังของ Don’t Worry Darling ค่อนข้างจะเรียบนิ่ง แม้ว่าจะมานะสร้างมิติเชิงซ้อนออกมาให้มองหวือหวา กลับยังไม่อาจจะซื้อใจผู้ชมไปได้สักเท่าไหร่ แล้วยิ่งมารวมกับแนวทางการควบคุมรวมทั้งงานสร้างด้วยแล้ว ยิ่งทำให้มีความรู้สึกว่าหนังหลงด้านหลงทางไปในบางจุด เป็นหนังที่มีจุดไคล์แมกซ์แม้กระนั้นราวกับไม่มี หลายแนวทางมองยังไม่ใช่ที่ใช่ทางในตัวของหนัง โดยยิ่งไปกว่านั้นการเล่าเรื่องที่ชวนขันเสียไปในบางคราว
แม้กระนั้นอย่างเดียวและก็สิ่งที่ดีเยี่ยมที่สุดที่ในหนัง Don’t Worry Darling ประเด็นนี้มีอยู่มันก็คือ “ฟลอเรนซ์ พิวจ์” เพราะเหตุว่าคุณเป็นหญิงเพียงแต่เพียงอย่างเดียวซึ่งสามารถหามหนังทั้งยังประเด็นนี้เอาไว้บนบ่าตนเองเพียงผู้เดียว นี่เป็นผลงานการแสดงระดับมาสเตอร์พีชของคุณ ที่แปลงเป็นงานแสดงที่ดีใช้ได้แต่มาอยู่ในหนังที่ไม่มีอะไรให้น่าจำมากแค่ไหนนัก การมีอยู่ของฟลอเรนซ์เป็นไฮไลต์ที่เด็ดที่สุดของหัวข้อนี้
การแสดงแบบน้อยแม้กระนั้นมากมายที่ได้ผลลัพธ์ออกมาได้อย่างพึงพอใจของคุณ ซีรีย์เอเชีย อุตสาหะที่สามารถช่วยปรับปรุงข้อเสียต่างๆของหนังหัวข้อนี้ในหลายซีน แต่ว่าแม้ว่าการแสดงของคุณจะดีสักมากแค่ไหน ก็ยังถูกกลบไปด้วยส่วนประกอบที่ออกจะไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่ในหนังประเด็นนี้ไปอย่างโชคร้าย โน่นก็เลยเป็นเหตุผลที่ดีเพียงแค่อย่างเดียวที่ประสบพบเห็นได้ในหนังหัวข้อนี้
Bones and All
รวมทั้งนี่เป็นหนึ่งในหนังที่ค่อนข้างจะน่าดึงดูดซึ่งสามารถเรียกความพอใจได้ตั้งแต่การประกาศสร้าง เนื่องจากเพียงแค่ชื่อกลุ่มผู้ผลิตรวมทั้งดาราหนังก็จูงใจมาได้แล้วชูหนึ่ง แล้วก็นี่ก็คือ “Bones and All” ที่จำต้องยอมรับสารภาพตรงๆว่าแอบรู้สึกงงมากเกี่ยวกับแนวหนังประเด็นนี้อยู่ไม่น้อย เมื่อครั้งหนังเผยโฉมแรกออกมาให้โลกมองเห็น มันจะเป็นดราม่า เป็นหนังรัก ไหมเป็นหนังสยองขวัญกันแน่ แต่ว่าที่แน่นอนนี่เป็นหนังที่จัดจ้าที่สุดในรอบปีอีกหนึ่งเรื่อง
Bones and All เกิดเรื่องราวรักทีแรกระหว่าง ซีรีย์เอเชีย แมเรน เด็กผู้หญิงที่กำลังทำความเข้าใจการเอาตัวรอดจากขอบของสังคม และก็ ลี ชายหนุ่มระหกระเหินนิสัยเป็นจริงเป็นจังที่ไม่มีสิทธิไม่มีเสียงในสังคม… เมื่อทั้งคู่เจอกันการเดินทางร่วมพันไมล์ก็เลยเริ่มขึ้นผ่านถนนหนทางกว้าง ทางลับ แล้วก็ประตูที่หลบของประเทศอเมริกาในช่วงของโรนัลด์ รีแกน แต่ว่าหากว่าพวกเขาจะพากเพียรอย่างเต็มความสามารถ แม้กระนั้นทุกทางกลับพาพวกเขากลับไปยังอกีตอันน่ากลัว รวมทั้งฟางเส้นในที่สุดที่จะวินิจฉัยว่าความรักของพวกเขานั้นจะอยู่รอดหรือเปล่า
นี่เป็นการกลับมาผนึกกำลังอีกทีของผู้กำกับ “ลูกา กัวดานีโน” กับดาราชายหนุ่ม “ทิโมธี ชาลาเมต์” ภายหลังที่พวกเขาเคยประดิษฐ์ผลงานมาสเตอร์พีชชั้นเลิศ อย่าง Call My By Your Name โดยที่ผู้กำกับชาวอิตาเลียนผู้นี้ก็ยังใส่ไอเดียรวมทั้งเคล็ดลับต่างๆออกมาได้อย่างดียอดอีกรอบ ทั้งยังวิสัยทัศน์แล้วก็งานสร้างที่ออกมาจากความสามารถเขา ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยไอเดียที่ขวักไขว่ โดยยิ่งไปกว่านั้นงานถ่ายรูปและก็สร้างมิติให้กับหนังประเด็นนี้ด้วยภาพ เขาทำออกมาได้ค่อนข้างจะถูกใจ
มุมกล้องถ่ายรูปและก็การตัดต่อประเด็นนี้เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ที่สัมผัสได้ต้นแบบของลูกา เขาใช้ความชำนาญด้านนี้ถ่ายทอดเรื่องราวและก็อารมณ์ของหนังออกมาได้ทุกเม็ดทุกเหน่วย สำหรับประเด็นนี้เขาได้กลับมาร่วมงานกับผู้เขียนคู่บารมี “เดวิด ไคจานิช” ที่เคยทำงานร่วมกันมาแล้วในหนังเขย่าขวัญหลายเรื่อง ปรับเปลี่ยนมาจากนิยายของ “ค้างไม่ลล์ เดอแองเจลิส” ด้วยความสามารถที่ค่อนข้างจะกลมกล่อมละมุนละไม ถึงแม้ว่าหน้าหนังทำให้รู้สึกว่าจำเป็นต้องมองยากรวมทั้งแปลความ
แม้กระนั้นพอเพียงมาสัมผัสด้วยสายตาด้วยเอง ก็พบว่านี่เป็นหนังที่ย่อยได้ง่ายอย่างยิ่งและก็เป็นไปตามจังหวะอารมณ์ด้วยดีสิ่งหนึ่งที่ให้ Bones and All น่าประทับใจมากมายๆก็คือสไตล์การเล่าเรื่องของหนัง ที่จำเป็นต้องกล่าวว่าเป็นจุดที่ใจป้ำจริงๆเนื่องจากดูราวกับว่าจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ แม้กระนั้นหนังสามารถทำให้ออกมาได้สดใหม่ได้อย่างน่าตื่นเต้นรวมทั้งขวัญผวาไม่น้อย ด้วยการจับโยงความโรแมนซ์มากับเส้นเรื่องที่ความเขย่าขวัญ ที่น่าจะเป็นสองสิ่งในแวดวงหนังที่เป็นปัญหาที่จะจับคู่โยงเข้าพบกันได้อย่างพอดีรวมทั้งพอเหมาะพอเจาะเพียงเท่านี้
แล้วก็เมื่อเอามาผสมกับท่าทางการแสดงของกลุ่มดาราหนังที่เปี่ยม sylvie and shimmy ไปด้วยประสิทธิภาพยกชุดด้วยแล้ว ยิ่งยกฐานะความดีเลิศให้กับหนัง ทิโมธี ชาลาเมต์ ยังคงแสดงด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง ด้วยแนวความคิดอิสระสำหรับในการตีปัญหาแล้วก็วางแบบค้างแรกเตอร์นี้ในลักษณะของเขา และก็เขาก็ทำออกมาได้เป็นธรรมชาติ โดยที่ความเป็นตัวเขาเองมิได้บ่อนทำลายผู้แสดงนี้อะไรเลย เป็นการแสดงที่ถ่ายทอดออกมาน้อยแม้กระนั้นทรงอำนาจอยู่ในหลายจุด
ขณะที่ “เทย์เลอร์ รัสเซลล์” ที่ถือได้ว่าเป็นการถือหน้าที่ที่ท้าและก็ฉีกกรอบแนวเดิมๆของตนได้อย่างน่าประทับใจ ซีรีย์เอเชีย จริงๆคุณก็มีประสบการณ์เล่นหนังมาก็ออกจะมากมายในระดับหนึ่ง คุณอาจจะคุ้นคุณจากในหนัง Escape Room ทั้งยัง 2 ภาค แม้กระนั้นพอเพียงมามองเห็นในหนังประเด็นนี้แล้ว คุณสามารถแตกต่างออกไปคนละแนวทางได้อย่างน่าประหลาดใจ การแสดงของคุณจัดว่าปรับปรุงขึ้นไปแบบก้าวกระโจน อีกทั้งอินเนอร์รวมทั้งทีท่าทางการแสดงนั้น ถ่ายทอดออกมาได้อย่างล้มเปี่ยมบนหน้าจอ
อีกผู้ที่ไม่เอ่ยถึงคงมิได้เลย ก็คือ “มาร์ค ไรแลนซ์” ที่นับว่ามาแสดงฤทธิ์ของดารามือโปรระดับรางวัลออสการ์ให้ผู้ชมได้มองเห็น หากว่านักแสดงของเขาจะเป็นเพียงแต่ตัวสมทบ มีเครื่องปรับอากาศไทม์มิได้มากแค่ไหน แม้กระนั้นทุกฉากที่เขาแสดงตัวขึ้นนั้น มอบการแสดงชั้นเอกออกมาให้ตรึงตาตรึงใจ รวมทั้งผู้ชมจึงควรขนลุกกับทุกๆการแปลความแล้วก็ถ่ายทอดหน้าที่ของเขาได้อย่างน่าทึ่ง เป็นตัวละครที่นับว่าเป็นไฮไลต์ที่สุดยอดในเรื่องอย่างยิ่งจริงๆ
สรุปว่าโดยรวมแล้วนั้น Bones and All นับว่าเป็นหนังโรแมนซ์เขย่าขวัญที่ทำออกมาได้สุดเกือบทุกทาง ในทางการปีนลำดับความเกี่ยวข้องของผู้แสดงก็ใช้ได้ เวลาที่มุมของความตื่นเต้นก็สามารถขุดเสน่ห์ออกมาได้อย่างฉายแสงรวมทั้งน่าหวาดหวั่นแบบจัดเต็ม ยิ่งได้เรื่องแสดงหนพอดีด้วยเคมีที่เหมาะมาเสริมเข้าไปด้วยแล้วนั้น ก็ยิ่งทำให้หนังประเด็นนี้เป็นหนังที่เชิงชั้นแล้วก็สไตล์ที่จะจำต้องทำให้ผู้ชมร้องว้าว…และก็หวาดเสียวไปพร้อมเพียงกัน แล้วก็นี่เป็นสิ่งเหนือความคาดของแวดวงหนังในรอบปีนี้เลย